เครื่องยนต์รุ่นเก่ากับการก้าวขยับสู่โลกใหม่ Formula 1
หลายคนเมื่อได้ยินชื่อของ Formula 1 ก็คงอดที่จะคิดถึงเรื่องของความเร็วไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะครับ อย่างที่ทราบกันดีว่า Formula 1 ขึ้นชื่อเกี่ยวกับเรื่องของความเร็วกับวงการของรถแข่งมาอย่างยาวนาน ซึ่ง Formula 1 ถือเป็นเจ้าแรกๆ เลยที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการของเครื่องยนต์รถให้เปลี่ยนไปเข้าใกล้คำว่าเหนือขีดจำกัดของความเร็วมากยิ่งขึ้น จนเป็นที่แพร่หลายกันในกลุ่มของผู้ที่ชื่นชอบเรื่องเครื่องยนต์สู่วงกว้างจนเป็นที่รู้จักกันดังเช่นในปัจจุบันนี้และวันนี้เราจะนำทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Formula 1 จากอดีตถึงปัจจุบันว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
เริ่มแรกที่ Formula 1 เปิดตัวขึ้นในปี ค.ศ.1947 ได้เข้ามาปฏิวัติวงการเครื่องยนต์ให้เปลี่ยนไปโดยการนำแนวคิด ERS (Energy Recovery System) มาใช้คู่กับเทอร์โบ กับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นจริง ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะนำความร้อนที่ปล่อยไปมาใช้ให้เกิดประโยชน์โดยการนำความร้อนที่ปล่อยออกไปมาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ โดยวิธีนี้นอกจากจะเพิ่มความเร็วแล้วก็ยังไม่สร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย
ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 ได้ปรับรถขนาดของกระบอกสูบ ความจุของตัวเครื่องลง นั่นก็ทำให้ความเร็วและแรงของเครื่องยนต์ลดลง แต่วิธีการนี้เองก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยของผู้ใช้ได้มากขึ้น ปี ค.ศ. 1966 หลังจากเปิดตัวผ่านมาเป็นเวลากว่า 20 ปี Formula 1 ก็กลับเข้ามาสู่ยุครุ่งเรืองของวงการเครื่องยนต์อย่างถึงที่สุด ด้วยได้เปิดตัวเครื่องยนต์รุ่นใหม่ในปีนี้ที่สามารถมีแรงขับเคลื่อนได้มากกว่า 1000 แรงม้าซึ่งมากกว่ายุคเปิดตัวเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นเรื่อยมา Formula 1 ก็ได้มีแบรนผลิตรถยนต์ชั้นนำเข้ามาร่วมอย่างมากมาย อาทิ Toyota BMW, Ferrari ,Mercedes เป็นต้น ที่ผลัดเปลี่ยนแข่งขันกันพัฒนา Formula 1 มาเรื่อยมา จนกระทั่งปี ค.ศ. 2014 เทอร์โบก็ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทอีกครั้ง แต่บริษัทคู่ค้าและสังคมก็ได้เรียกร้องให้ Formula 1 ผลิตเครื่องยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะใช้เทอร์โบร่วมกับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร V6 เพื่อลดการใช้เชื้อเพลิง นอกจากนี้ยังเพิ่มการจำกัดรอบร่วมด้วยโดยจะจำกัดรอบอยู่ที่ 15,000 rpm
ซึ่งทั้งหมดก็เป็นการพัฒนาที่ผ่านมาของ Formula 1 ที่ออกแบบพัฒนาเครื่องยนต์ที่ปรับเปลี่ยนวงการเครื่องยนต์ออกมาจนทั่วทั้งโลกต้องจับตามอง ซึ่ง Formula 1 ถือเป็นเจ้าแรกๆ ที่ได้พัฒนาเครื่องยนต์มาพร้อมเทอร์โบทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หลังจากนี้เราก็ต้องมาจับตามองกันมา Formula 1 จะพัฒนาเครื่องยนต์อะไรให้ออกมาสู่สาธารณะให้โลกได้ทึ่งกันอีกบ้าง แต่ที่ผ่าน Formula 1 ก็พิสูจน์ให้ขึ้นแล้วว่าวงการเครื่องยนต์ไม่จำเป็นต้องจำเจอีกต่อไป